3. หน่วยงานที่รับผิดชอบ

        คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

4. ปรัชญาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร

                หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพ มุ่งความเป็นเลิศในการผลิตบัณฑิตที่มีความสามารถในการใช้ภาษาไทยอย่างมีประสิทธิผล สามารถนำไปใช้ในการประกอบวิชาชีพในหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อตอบสนองความต้องการของท้องถิ่น

        4.2 วัตถุประสงค์ของหลักสูตร

                1. มีความสามารถในการใช้ภาษาไทยอย่างมีประสิทธิผลในการประกอบอาชีพทั้งอาชีพในสังกัดและอาชีพอิสระ
                2. มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิผล
                3. มีความสามารถในการปรับตัวและดำรงชีวิตได้สอดคล้องกับสังคมอย่างมีความสุข
                4. มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพ
                5. มีความสามารถในการบูรณาการความรู้เพื่อพัฒนาวิชาชีพ

        ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2549

        จะต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า และ/หรือเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาและของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ผู้เข้าศึกษาเป็นนักศึกษาชาวไทยและชาวต่างชาติ

        ตามเกณฑ์การคัดเลือกเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และหรือตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

8. ระบบการศึกษา

        ใช้ระบบการศึกษาแบบทวิภาค (Semester) ในปีการศึกษาหนึ่ง ๆ แบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษาปกติ โดย 1 ภาคการศึกษา มีระยะเวลาในการศึกษาไม่น้อยกว่า 15 สัปดาห์ หากมีการจัดการศึกษาในภาคฤดูร้อน (Summer Session) จะต้องมีระยะเวลาในการศึกษาไม่น้อยกว่า 8 สัปดาห์

        การคิดหน่วยกิต

            -  รายวิชาภาคทฤษฎีที่ใช้เวลาบรรยายหรืออภิปรายปัญหาไม่น้อยกว่า 15 ชั่วโมงต่อภาคการศึกษาปกติ ให้มีค่าเท่ากับ 1 หน่วยกิตระบบทวิภาค รายวิชาภาคปฏิบัติที่ใช้เวลาฝึกหรือทดลองไม่น้อยกว่า 30 ชั่วโมงต่อภาคการศึกษาปกติให้มีค่า
               เท่ากับ 1 หน่วยกิตระบบทวิภาค
            -  การฝึกงานหรือการฝึกภาคสนาม ที่ใช้เวลาฝึกไม่น้อยกว่า 45 ชั่วโมง ต่อภาคการศึกษาปกติให้มีค่าเท่ากับ 1 หน่วยกิตระบบทวิภาค
            -  การทำโครงงานหรือกิจกรรมการเรียนอื่นใดตามที่ได้รับมอบหมายที่ใช้เวลาทำโครงงานหรือกิจกรรมนั้น ๆ ไม่น้อยกว่า 45 ชั่วโมงต่อภาคการศึกษาปกติ ให้มีค่าเท่ากับ 1 หน่วยกิตระบบทวิภาค

        ระยะเวลาในการศึกษาตลอดหลักสูตร รวมทั้งการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ นักศึกษาประเภทเต็มเวลา จะต้องใช้เวลาในการศึกษาไม่น้อยกว่า 6 ภาคการศึกษาปกติ และจะต้องไม่เกิน 8 ปีการศึกษา

        การลงทะเบียนเรียนรายวิชา ในภาคการศึกษาปกตินักศึกษาจะต้องลงทะเบียนไม่น้อยกว่า 9 หน่วยกิต แต่จะต้องไม่เกิน 22 หน่วยกิต ส่วนในภาคฤดูร้อนจะลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 9 หน่วยกิต

        14.1  จัดการเรียนการสอนตามห้องเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์กำหนด

        14.2  ห้องปฏิบัติการทางภาษา 1 ห้อง

        14.3  โสตทัศนวัสดุ เช่น โปรเจกเตอร์มัลติมีเดีย วีดิทัศน์ คอมพิวเตอร์

        14.4  แหล่งฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เช่น สถานีวิทยุชุมชน สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สำนักพิมพ์ บริษัทห้างร้าน และหน่วยงานราชการ

        หนังสือ ตำราเรียน วารสาร และเอกสารอื่น ๆ ที่สัมพันธ์กับสาขาวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพในสำนักวิทยบริการมีประมาณ 200 ฉบับ ดังตัวอย่าง

        * หมายเหตุ : เป็นงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรเป็นรายปีจากมหาวิทยาลัย

        หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

                จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่า 130 หน่วยกิต

        17.2 โครงสร้างหลักสูตร

        17.3 รายวิชา และจำนวนหน่วยกิต

            รายวิชาตามหลักสูตรกำหนดด้วยรหัสวิชาโดยใช้ระบบตัวเลข 7 หลัก โดยมีความหมายดังนี้

                เลขตัวแรก แทนคณะ

                เลขตัวที่ 2,3 แทนหมู่วิชา

                เลขตัวที่ 4 บ่งบอกถึงระดับความยากง่ายหรือชั้นปี

                เลขตัวที่ 5 บ่งบอกถึงลักษณะเนื้อหาวิชา

                เลขตัวที่ 6,7 บ่งบอกถึงลำดับก่อนหลังของวิชา

            รหัสตัวเลขตัวแรกแทนคณะที่เปิดสอนดังนี้

                1 หมายถึง คณะครุศาสตร์

                2 หมายถึง คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์

                3 หมายถึง คณะวิทยาการจัดการ

                4 หมายถึง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

                ตัวเลขแสดงหลังชื่อรายวิชา หมายถึง จำนวนหน่วยกิต (บรรยาย–ปฏิบัติ–ศึกษาด้วยตนเอง) โดย

                บรรยาย หมายถึง จำนวนชั่วโมงบรรยาย = จำนวนหน่วยกิตบรรยาย

                ปฏิบัติ หมายถึง จำนวนชั่วโมงปฏิบัติ = จำนวนหน่วยกิตปฏิบัติ x 2

                จำนวนหน่วยกิต x 3 = จำนวนชั่วโมงทฤษฎี+จำนวนชั่วโมงปฏิบัติ+จำนวนชั่วโมงศึกษาด้วยตนเอง

        ก. หมวดวิชาศึกษาทั่วไป 

        ข. หมวดวิชาเฉพาะ จำนวน 93 หน่วยกิต

            1. วิชาแกน จำนวน 35 หน่วยกิต มีรายวิชาดังต่อไปนี้

            2. วิชาเฉพาะด้านบังคับ จำนวน 34 หน่วยกิต มีรายวิชาดังต่อไปนี้

            3. วิชาเฉพาะด้านเลือก จำนวน 17 หน่วยกิต ให้เลือกเรียนจากรายวิชาดังต่อไปนี้

            4. วิชาประสบการณ์วิชาชีพ จำนวน 7 หน่วยกิต มีรายวิชาดังต่อไปนี้

        ค. หมวดวิชาเลือกเสรี จำนวนไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิต

                ให้นักศึกษาเลือกเรียนวิชาใด ๆ ในระดับปริญญาตรีที่เปิดสอนในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์โดยไม่ซ้ำกับรายวิชาที่เคยเรียนมาแล้ว และต้องไม่เป็นรายวิชาที่กำหนดให้เรียนในโครงสร้างของหลักสูตรสาขาวิชานี้

            2. คำอธิบายรายวิชาหมวดวิชาเฉพาะ

                    วิชาแกน จำนวน 35 หน่วยกิต

        ศึกษาความหมาย ความมุ่งหมาย หลักการและประโยชน์ของการวิจัย จรรยาบรรณของนักวิจัย ขั้นตอนของการวิจัย ประเภทของการวิจัย การออกแบบการวิจัย การเลือกปัญหา การกำหนดจุดมุ่งหมาย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือวิจัยแบบต่าง ๆ การวิเคราะห์ข้อมูล การเขียนเค้าโครงวิจัย การเขียนรายงานการวิจัย และการประมวลการวิจัย

        ศึกษาความสามารถในการใช้จิตวิทยาในการบริหารธุรกิจ ความสามารถในการบริหาร บุคลิกภาพเชิงธุรกิจ กลวิธีในการเข้าใจผู้อื่น การให้คำปรึกษาและคำชี้แนะ การจูงใจผู้ร่วมงาน จิตวิทยาการบริหารงานในการแข่งขันเชิงธุรกิจ การปรับตัวทางสังคมและการตัดสินใจในการทำงานร่วมกับผู้อื่น จิตวิทยาของกระบวนการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน และจิตวิทยาของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน

        ศึกษาและวิเคราะห์สภาวะความสุขและความทุกข์ของมนุษย์ สาเหตุของความทุกข์และความสุข รวมทั้งวิธีการหลีกหนีความทุกข์และการสร้างความสุขในระดับต่าง ๆ

        ศึกษาความหมายและคุณค่าของภูมิปัญญาไทย เงื่อนไขการเกิดภูมิปัญญา ภูมิปัญญาดั้งเดิม การรับ ภูมิปัญญาต่างถิ่น ภูมิปัญญาไทยในศาสตร์สาขาต่าง ๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น เวชกรรม สถาปัตยกรรม คหกรรม ศึกษาชีวิตและผลงานทางภูมิปัญญาของปราชญ์ท้องถิ่น รวมทั้งโครงการพระราชดำริ

        ศึกษาและฝึกทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารจากสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ บทความทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาของนักศึกษา ฝึกทักษะในการอ่าน บันทึก สรุปความ ตีความ ขยายความ รวมทั้งการนำเสนอด้วยวาจาและลายลักษณ์อักษร โดยเน้นกระบวนการทักษะสัมพันธ์ทางภาษา

        ศึกษาและฝึกทักษะภาษาอังกฤษด้านการอ่าน การเขียน การฟัง และการพูด ที่เกี่ยวกับเนื้อหาทางด้านมนุษยศาสตร์ เช่น ประวัติศาสตร์ ภาษาศาสตร์ วรรณคดี มานุษยวิทยา วัฒนธรรม โบรานคดี เป็นต้น เน้นทักษะการอ่านในระดับถ่ายโอน ระดับการสื่อสาร และระดับวิเคราะห์ เช่น การรู้ศัพท์ การอ้างถึง คำเชื่อม ข้อความ การจับใจความสำคัญ เหตุและผล ทัศนคติของผู้เขียน และสรุปความบทอ่าน

        ศึกษาหลักกฎหมายทั่วไป องค์กรธุรกิจ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมธุรกิจ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยนิติกรรม สัญญา หนี้ และเอกเทศสัญญา กฎหมายว่าด้วยหลักประกันสินเชื่อ กฎหมายเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุน การคุ้มครองของผู้บริโภคและป้องกันการค้าที่ไม่เป็นธรรม กฎหมายเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการและการระงับข้อพิพาททางธุรกิจ

        ศึกษาความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายอาญา กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ศึกษาเรื่องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกของมนุษย์ กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์และหนังสือพิมพ์ในประเทศไทย สิขสิทธิ์ในประเทศและระหว่างประเทศ กฎหมายสื่อมวลชนและกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชน

        ศึกษาความหมาย ความสำคัญ และคุณลักษณะของนิทรรศการประเภทต่าง ๆ การวางแผน การออกแบบการจัดนิทรรศการ เทคนิคต่าง ๆ ในการจัดนิทรรศการ ปฏิบัติการจัดนิทรรศการเพื่อกิจการ

ต่าง ๆ ในเชิงวิชาการ โฆษณา และประชาสัมพันธ์

        ศึกษาลักษณะพื้นฐานของธุรกิจประเภทต่าง ๆ และองค์ประกอบที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ได้แก่ การจัดการ การบัญชี การเงิน การตลาด การบริหารบุคคล การบริหารสำนักงาน ซึ่งครอบคลุมถึงเอกสารทางธุรกิจประเภทต่าง ๆ แนวทางการประกอบธุรกิจ ตลอดจนศึกษาปัญหาที่ เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจและจรรยาบรรณของนักธุรกิจ

        ศึกษาความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินงานของสำนักงาน บทบาทของการจัดสำนักงาน งานสารบรรณ งานพัสดุ การวางแผนผังและระเบียบวิธีปฏิบัติของงานสำนักงาน การจัดสถานที่ทำงาน การอำนวยการพนักงาน การควบคุมงานที่มีประสิทธิภาพ

        ศึกษาเกี่ยวกับเกี่ยวกับโครงสร้างและวิธีการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปต่าง ๆ ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น การใช้ซอฟต์แวร์ชุดสำนักงาน ระบบฐานข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์เวอร์คชีต เวอร์ดโปรเซสเซอร์ ฯลฯ

        ศึกษาระบบคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน ระบบสำนักงานอัตโนมัติ ระบบสารสนเทศ การประมวลผลข้อมูล ระบบการจัดเก็บข้อมูล การสร้างฐานข้อมูล การสื่อสารข้อมูล การนำเสนอข้อมูล การใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการสืบค้นข้อมูลทางการศึกษา การใช้คอมพิวเตอร์สำหรับผลิตงานด้าน สารสนเทศ ฝึกปฏิบัติการใช้คอมพิวเตอร์ในการเก็บข้อมูลและผลิตงานด้านสารสนเทศ

                    วิชาเฉพาะด้านบังคับ จำนวน 34 หน่วยกิต

        ศึกษาความหมาย ความสำคัญ วัตถุประสงค์ องค์ประกอบ กระบวนการ หน้าที่และประเภทของการสื่อสาร ปัจจัยที่สนับสนุนหรือสกัดกั้นประสิทธิภาพของการสื่อสาร ทฤษฎีและแบบจำลองพื้นฐานทางการสื่อสาร

        ศึกษากลวิธีและหลักการอ่าน เพื่อเพิ่มอัตราความเร็วโดยใช้แบบฝึกหัดตามขั้นตอน

        ศึกษาความหมาย วัตถุประสงค์ องค์ประกอบ ประเภท และอุปสรรคของการพูด การเลือกเรื่อง การร่างบทเตรียมพูด การสร้างความมั่นใจในการพูด วิธีขึ้นต้นและลงท้ายในการพูด การสร้างอารมณ์ขัน การใช้น้ำเสียงและการใช้กิริยาท่าทาง การประเมินผลและการปรับปรุงการพูด รวมทั้งฝึกพูดโดยนำหลักที่ศึกษามาใช้

        ศึกษาหลักการฟัง ฝึกฟังจับใจความเรื่องประเภทต่าง ๆ วิเคราะห์และประเมินค่าเรื่องที่ฟัง ทบทวนหลักการพูด ฝึกและพัฒนาการพูดในบทบาทและสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น พูดโทรศัพท์ พูดต้อนรับ พูดแนะนำตัว พูดขออภัย พูดโน้มน้าวใจ พูดบรรยายสรุป และอื่น ๆ เน้นประสิทธิผลการพูดตามวัตถุประสงค์

        ศึกษาหลักการ จับประเด็น การวิเคราะห์วิจารณ์ การตีความ และการประเมินค่า เพื่อพัฒนา ประสิทธิภาพการอ่านจากงานเขียนประเภทต่าง ๆ

        ศึกษาหลักการและฝึกการเขียนอธิบาย ชี้แจง โต้แย้ง บรรยาย พรรณนา จูงใจ คำกล่าวในพิธีเปิด–ปิดงานต่าง ๆ รวมทั้งฝึกย่อความ (summary) และสรุปความ (Conclusion)

        ศึกษาความหมายและลักษณะสำคัญของวรรณกรรม คุณค่าของวรรณกรรม ความสัมพันธ์ระหว่างวรรณกรรมกับสังคม และวิทยาการสาขาอื่น ๆ

        ศึกษาความหมาย ลักษณะ และประเภทของเอกสารทางราชการ ฝึกอ่านและวิเคราะห์เอกสารเหล่านั้น เพื่อเป็นพื้นฐานในการเขียนเอกสารราชการประเภทต่าง ๆ ให้มีประสิทธิผล

        ศึกษาความหมาย ลักษณะ และประเภทของเอกสารทางธุรกิจ ฝึกอ่านและวิเคราะห์เอกสารเหล่านั้น เพื่อเป็นพื้นฐานในการเขียนเอกสารทางธุรกิจประเภทต่าง ๆ ให้มีประสิทธิผล

        ศึกษาหลักการปริทัศน์ วิเคราะห์ลักษณะงานเขียนเชิงปริทัศน์ที่ปรากฏตามสื่อมวลชน ฝึกการเขียนเชิงปริทัศน์

        ศึกษาหลักและวิธีการประชุมประเภทต่าง ๆ เช่น การสัมมนา การประชุมแถลงข่าว การอภิปราย องค์ประกอบของการประชุม หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้เข้าร่วมประชุมในฐานะต่าง ๆ ฝึกปฏิบัติเป็นผู้นำการประชุมและผู้เข้าร่วมประชุม รวมทั้งฝึกจัดการประชุม

        ศึกษาทฤษฎีทางศิลปะ เช่น ทฤษฎีการเลียนแบบ (Theory of Imitation) ทฤษฎีการแสดงออก (Theory of Expression) และทฤษฎีผลกระทบ (Theory of Effect) องค์ประกอบของศิลปะบางสาขา เช่น วรรณกรรม ละครเวที และภาพยนตร์ รวมทั้งศึกษาหลักและแนวหรือทฤษฎีการวิจารณ์ศิลปะบางสาขาฝึกวิจารณ์โดยเน้นการวิจารณ์วรรณกรรม

        ศึกษาวิวัฒนาการ ประเภท องค์ประกอบ กลวิธีการประพันธ์วรรณกรรมปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างวรรณกรรมกับสังคม

        ศึกษาความหมาย ลักษณะและความสำคัญของการนำเสนอ องค์ประกอบ รูปแบบ การเตรียมตัว และเตรียมความพร้อมก่อนนำเสนอ สื่อและการใช้สื่อ เทคนิคหรือศิลปะการนำเสนอ การประเมินผล ฝึกปฏิบัติการนำเสนอ

        ศึกษาหลักและวิธีการสัมมนา เลือกปัญหาหรือประเด็นที่สำคัญทางภาษาและ/หรือวรรณกรรมไทย มาศึกษาวิเคราะห์ และนำเสนอโดยการอภิปรายและสัมมนา ฝึกจัดการสัมมนา

            4. คำอธิบายรายวิชาหมวดวิชาเฉพาะ

                    วิชาเฉพาะด้านเลือก จำนวน 17 หน่วยกิต

        ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับสังคม พฤติกรรมทางภาษาที่มีผลมาจากสภาพของสังคมที่แตกต่างกัน รวมทั้งศึกษาลักษณะของภาษาประเภทต่าง ๆ ในสังคมไทย

        ศึกษาและฝึกฝนการเปล่งเสียงอย่างมีพลังตามหลักวาทวิทยา อันได้แก่ การควบคุมระดับและอัตราความเร็วของเสียง รวมทั้งการแก้ปัญหาการออกเสียง เพื่อนำไปใช้ในการพูดในโอกาสต่าง ๆ

        ศึกษาและวิเคราะห์ภาษาในสื่อมวลชนสาขาต่าง ๆ รวมทั้งวิเคราะห์อิทธิพลของภาษา สื่อมวลชนที่มีผลต่อภาษาไทยปัจจุบัน

        ศึกษาหลักและการปฏิบัติตนในการเป็นผู้ประกาศและพิธีกร ฝึกการเป็นพิธีกร การอ่านและรายงานข่าว การอ่านบทความ การควบคุมลมหายใจ การออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน ฝึกบุคลิกภาพและไหวพริบในการดำเนินงาน

        ศึกษาลีลาของนักเขียน ได้แก่ การเลือกสรรคำ การสร้างประโยค การใช้ภาพพจน์ (figure of speech) การดำเนินเรื่อง การบรรยายและการพรรณนาความ การแสดงน้ำเสียง และวิเคราะห์ลีลาภาษาของนักเขียนที่สนใจ

        ศึกษาความหมาย ประเภท รูปแบบ และกลวิธีในการเขียนข่าว สารคดี (feature) บทความ (article) และฝึกปฏิบัติการ

        ศึกษาหลักและเทคนิคการใช้ภาษาเกี่ยวกับการโรงแรงและการท่องเที่ยว และฝึกปฏิบัติการ เน้นเรื่องปฏิภาณไหวพริบและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

        ศึกษาความหมาย วัตถุประสงค์ ประเภทและลักษณะของสื่อ ความสำคัญของการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ วิเคราะห์ข้อความโฆษณา (copy) และสารสำหรับการประชาสัมพันธ์ ฝึกการเขียนเพื่อการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ที่ใช้กับสื่อต่าง ๆ

        ศึกษาวิธีการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ การสังเคราะห์ความรู้และความคิดการเลือกรูปแบบการเขียน การอ้างอิง การใช้ภาษาที่เหมาะแก่งานวิชาการ ฝึกเขียนบทความวิชาการ

        ศึกษาความหมายและรูปแบบต่าง ๆ ของวรรณศิลป์ในคำประพันธ์ทั้งแบบฉบับและสมัยใหม่ วิเคราะห์บทร้อยกรองที่แต่งดี ฝึกแต่งบทประพันธ์รูปแบบต่าง ๆ

        ศึกษาวิวัฒนาการของเพลงไทย วิเคราะห์เนื้อเพลงไทยลูกทุ่งและเพลงไทยสากลในแง่กลวิธีการแต่งและบริบทความนิยม ศึกษาชีวิตและผลงานของนักประพันธ์บทเพลง นักร้องที่ได้รับความนิยมและฝึกแต่งเนื้อเพลง

        ศึกษาวรรณกรรมที่ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสรและวรรณกรรมที่มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมรุ่นหลังในด้านต่าง ๆ

        ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับความคิด ฝึกวิเคราะห์สารประเภทต่าง ๆ เช่น งานโฆษณา การ์ตูนการเมือง บทเพลง เพื่อให้เห็นสารและกระบวนการสร้างสาร

        ศึกษาความหมาย หลักการ และกระบวนการการอ่านตีความ ฝึกตีความสารประเภทต่าง ๆ ทั้ง ร้อยแก้วและร้อยกรอง รวมทั้งฝึกอ่านตีบทหรืออ่านออกเสียงอย่างตีความ (oral interpretation) โดยมุ่งความถูกต้องทางอักขรวิธี การสื่อความหมายและจินตภาพ ตลอดจนสร้างอารมณ์และบรรยากาศของเรื่อง

        ศึกษาความหมายและกระบวนการคิดสร้างสรรค์ ศิลปการเขียนเชิงสร้างสรรค์ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ฝึกเขียนเรื่องจากความคิดและจินตนาการ ทั้งสารคดีและบันเทิงคดี โดยคำนึงถึงความถนัด และความคิดสร้างสรรค์เฉพาะตน

        ศึกษาหลักการสัมภาษณ์ การให้สัมภาษณ์ การจัดการสัมภาษณ์ สื่อที่ใช้ประกอบ การสัมภาษณ์ และฝึกปฏิบัติการ

        ศึกษาลักษณะ องค์ประกอบ และหลักเกณฑ์การเขียนบันเทิงคดีร้อยแก้วประเภทต่างๆ วิเคราะห์ลักษณะการเขียนบันเทิงคดีประเภทร้อยแก้ว ฝึกเขียนบันเทิงคดีร้อยแก้วบางประเภท

        ศึกษาลักษณะและรูปแบบของวรรณกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ฝึกเขียนวรรณกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน

        ศึกษาความหมาย องค์ประกอบ โครงสร้างของเรื่อง และแนวนำเสนอละคร ศึกษารูปแบบของละครวิทยุ ละครโทรทัศน์ และละครเวที ศึกษาเรื่องมุมกล้อง และวิเคราะห์บทละคร รวมทั้งฝึกเขียน บทละคร

        ศึกษาบทบาทหน้าที่ และจรรยาบรรณของบรรณาธิการ กระบวนการจัดทำหนังสือประเภท ต่าง ๆ การคัดเลือกและตรวจแก้ไขต้นฉบับ ศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับเทคนิคการพิมพ์ การจัดหน้าและการกำหนดตัวอักษร การพิสูจน์อักษร การตรวจคุณภาพของฟิล์มและภาพ การเลือกภาพประกอบ การคำนวณค่าใช้จ่ายในการพิมพ์

        ศึกษาและฝึกการแปรรูปวรรณกรรมจากรูปหนึ่งไปสู่อีกรูปหนึ่ง เช่น จากนวนิยายเป็นบทละครจากวรรณกรรมร้อยกรองเป็นบทละครร้อยแก้ว

        ศึกษาหลักและวิธีการพากย์ การทำเสียงตัวละครต่าง ๆ และฝึกการพากย์เสียงตัวละคร

        ศึกษาความหมายและความสำคัญของการฝึกอบรม กระบวนการจัดฝึกอบรมการจัดดำเนินการการฝึกอบรมอย่างมีประสิทธิผล หน้าที่และคุณสมบัติของวิทยากร ศิลปะในการถ่ายทอดและการสร้างบรรยากาศ เกมและกิจกรรมเพื่อพัฒนาบุคลากร การประเมินผลและการพัฒนาการฝึกอบรม ฝึกจัดการฝึกอบรม

                    วิชาประสบการณ์วิชาชีพ จำนวน 7 หน่วยกิต

จัดให้มีกิจกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมของนักศึกษาก่อนออกฝึกประสบการณ์วิชาชีพในด้านการรับรู้ ลักษณะ และโอกาสของการประกอบอาชีพ การพัฒนานักศึกษาให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ แรงจูงใจ และคุณลักษณะที่เหมาะสมกับวิชาชีพโดยเน้นทักษะด้วยการปฏิบัติงานและกิจกรรม

        จัดให้นักศึกษาได้ฝึกประสบการณ์วิชาชีพในองค์กรหรือหน่วยงาน เพื่อให้ได้รับความรู้ ทักษะ เจตคติ และประสบการณ์ในอาชีพแล้วนำผลการฝึกงานมาวิเคราะห์สรุปในรูปของการสัมมนา นิทรรศการหรือภาคนิพนธ์

        หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพ ได้กำหนดระบบและวิธีการประกัน

        คุณภาพหลักสูตรในประเด็น ดังนี้

        18.1 ประเด็นการบริหารหลักสูตร

                1. แต่งตั้งกรรมการร่างหลักสูตร
                2. คณะกรรมการจากอาจารย์ในภาควิชาภาษาไทยและสารสนเทศและจากภาควิชาอื่นๆที่ทรงคุณวุฒิทางด้านทักษะการใช้ภาษาไทยวิพากษ์หลักสูตร
                3. ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมหาวิทยาลัยวิพากษ์หลักสูตร
                4. พิจารณาปรับปรุงหลักสูตรตามคำทักท้วงและข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ
                5. คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์พิจารณาปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับนโยบายของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
                6. สภาวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์พิจารณากลั่นกรองหลักสูตร
                7. สภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติหลักสูตร
                8. คณะกรรมการการอุดมศึกษารับทราบหรือรับรองหลักสูตร

        18.2 ประเด็นทรัพยากรประกอบการเรียนการสอน

                1. ตำราและเอกสาร (ดังรายละเอียดในข้อ 15)
                2. ห้องปฏิบัติการทางภาษา 1 ห้อง
                3. โสตทัศนวัสดุ เช่น โปรเจกเตอร์มัลติมีเดีย วีดิทัศน์ คอมพิวเตอร์
                4. แหล่งฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เช่น สถานีวิทยุชุมชน สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สำนักพิมพ์ บริษัทห้างร้าน และหน่วยงานราชการ

        18.3 ประเด็นการสนับสนุนและการให้คำแนะนำนักศึกษา

                1. มีทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาและทุนให้เปล่าอื่นๆ
                2. มีอาจารย์ที่ปรึกษาในสาขาวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพชั้นปีละ 2 คน

        18.4 ประเด็นความต้องการของตลาดแรงงาน สังคม และ/หรือความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตก่อนเปิดหลักสูตร

            สำรวจความพึงพอใจและความต้องการแรงงานจากหน่วยทั้งภาครัฐและเอกชน โดยใช้แบบสอบถามกับบุคคลต่อไปนี้

                1. บัณฑิตวิชาเอกภาษาไทย จำนวน 38 คน
                2. เจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 10 คน
                3. ข้าราชการการเมืองท้องถิ่น จำนวน 12 คน
                4. นักธุรกิจ จำนวน 9 คน
                5. ผู้มีอาชีพอิสระ เช่น นักเขียน จำนวน 7 คน จากการสำรวจปรากฏว่า ร้อยเปอร์เซนต์ของผู้กรอกแบบสอบถามเห็นสมควรให้เปิดหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพ

        18.5 หลังเปิดหลักสูตร

                1. สำรวจจำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำ โดยใช้แบบสอบถาม
                2. สำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
                3. สำรวจความพึงพอใจของบัณฑิตเกี่ยวกับหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพ

        ดัชนีบ่งชี้มาตรฐานและคุณภาพการศึกษา สำหรับหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพ คือ

                1. การได้งานทำของบัณฑิต (ประเมินบัณฑิตทุกรุ่น)
                2. ความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตและผู้ที่เกี่ยวข้อง (ประเมินทุก 2 ปี)
                3. ความพึงพอใจของบัณฑิตที่มีต่อหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอน (ประเมินทุก 4 ปี)
                4. การศึกษาต่อของบัณฑิตในระดับที่สูงขึ้น (ประเมินบัณฑิตทุกรุ่น)
                5. พิจารณาปรับปรุงหลักสูตรทุก 5 ปี

        กำหนดประเมินครั้งแรกปี 2554 (เริ่มการประเมินข้อ 3)

หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพ มีกระบวนการร่างหลักสูตร ดังนี้

        1. มหาวิทยาลัยจัดประชุมฟังวิสัยทัศน์หลักสูตรมหาวิทยาลัยราชภัฏจากผู้ทรงคุณวุฒิคือ ศ.ดร.ปรัชญา เวสารัชช์ และพลเอกศิริ ทิวะพันธ์ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2545

        2. ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาหลักสูตรมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ณ โรงแรมทรัพย์ไพรวัลย์-แกรนด์รีสอร์ท จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 28–30 ตุลาคม 2545

        3. สำรวจความคิดเห็นของบัณฑิตและประชาชนโดยทั่วไป อีกทั้งหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เกี่ยวกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบัณฑิต เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2546

        4. ศึกษาหลักสูตรภาษาไทยเพื่ออาชีพจากสถาบันอื่น ๆ เช่น หลักสูตรภาษาเพื่ออาชีพของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและหลักสูตรภาษาไทยเพื่อการสื่อสารของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

        5. ดำเนินการประชุมเพื่อร่างหลักสูตร เดือนมิถุนายน พ.ศ.2547 โดยมีคณะกรรมการร่างหลักสูตรตามคำสั่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ดังนี้

                5.1 ผศ.สุชาติ พงษ์พานิช กศ.บ.,กศ.ม.,นศ.บ.
                5.2 นายวิฑูร สนธิปักษ์ วท.บ., วท.ม.
                5.3 นางสาวชนิกา คำพุฒ ศศ.บ.,ศษ.ม.
                5.4 นางสาวนวพร คำเมือง ศศ.บ.,กศ.ม.

        6. ประชุมปฏิบัติการวิพากษ์หลักสูตร ณ ห้อง 211 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2548 โดยมีคณะกรรมการวิพากษ์หลักสูตร ที่ได้รับการแต่งตั้งจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ดังนี้

                6.1 ผศ.สุชาติ พงษ์พานิช กศ.บ.,กศ.ม.,นศ.บ.
                6.2 ผศ.สุวนีย์ พระแก้ว กศ.บ.,อ.ม.,นศ.บ.
                6.3 รศ.วิเชียร เกษประทุม พ.ม.,ศศ.บ.,ค.ม.
                6.4 นายภาณุพงษ์ คงจันทร์ กศ.บ.,กศ.ม.
                6.5 นางลักขณา เจริญวารี กศ.บ.,กศ.ม.
                6.6 ผศ.เสาวดี ธนวิภาคะนนท์ กศ.บ.,ค.ม.
                6.7 นางสาวชนิกา คำพุฒ ศศ.บ.,ศษ.ม.
                6.8 นางสาวนวพร คำเมือง ศศ.บ.,กศ.ม.

        7. ประชุมปรับปรุงเพื่อแก้ไขหลักสูตร เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2548

        8. นำเสนอผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกวิพากษ์หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาภาษาไทย เพื่ออาชีพ ดังรายนามต่อไปนี้

                1. ผศ.วิพุธ โสภวงศ์ อ.บ.,ค.บ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,M.A.(Linguistics) U. of Hawaii, สส.บ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
                2. ดร.ณัฏฐา จุลพรหม ปรัชญาดุษฏีบัณฑิต (ภาษาศาสตร์) มหาวิทยาลัยมหิดล
                3. ผศ.ดร.ธเนศ เวศร์ภาดา อ.บ.(ภาษา,วรรณคดีไทย) เกียรตินิยมอันดับ2 อ.ม.(วรรณคดีไทย) อ.ด.(วรรณคดีไทย) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                4. นายพัสกร กองทอง ศศ.บ (ภาษาและวรรณคดีไทย) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางแสน กศ.ม. (ภาษาและวรรณคดีไทย) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
                5. นางชมัยพร แสงกระจ่าง อ.บ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                6. นายสันติ คุณาวงศ์ นศ.บ. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์,กรรมการ ผู้จัดการบริษัทแฟรี่แลนด์สรรพสินค้า,กรรมการ ผู้จัดการบริษัทเสริมแสง (1991)จำกัด,สมาชิกสภาเทศบาลนครสวรรค์,ประธานชมรมห้างสรรพ-สินค้าภูธร (PDS)
                7. รศ.ไพบูลย์ ดวงจันทร์ กศ.บ.(ภาษาไทย),ศศ.ม.(ภาษาศาสตร์),D.E.A.(Anthropology)
                9. พัฒนาปรับปรุงหลักสูตรตามข้อท้วงติงและคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ 8
                10. นำเสนอกรรมการพัฒนาหลักสูตรคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และสภาวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ตามลำดับ
                11. ปรับปรุงหลักสูตรตามข้อท้วงติงและข้อแนะนำของกรรมการตามข้อ 10
                12. นำเสนอสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์เพื่อพิจารณาอนุมัติ

*********************

ไปบนสุด กลับไปหน้าหลัก